วงศ์เมือง ( ชนประคัลภ์ จันทร์เรือง ) นักเขียนใหญ่ได้สมุดข่อยซึ่งภายในบรรจุเรื่องราวของวรรณคดีเรื่อง " ขุนช้างขุนแผน " มาเล่มหนึ่งโดยบังเอิญโดยไม่รู้ว่า สมุดข่อยเล่มนั้นเป็นประตูผ่านไปสู่อีกมิติหนึ่งได้ เขาพลัดหลงข้ามเวลาเข้าไปในสมุดข่อยเล่มนั้น และได้พบกับ เจ้าสร้อยสุมาลี ( พิมลรัตน์ พิศลยบุตร ) ธิดาของเจ้าเชียงใหม่ ซึ่งกำลังถูกส่งไปถวายตัวแก่พระพันวษา ที่อยุธยา พร้อมด้วยแสนตรีเพชรกล้า ( พุฒิชัย อมาตยกุล ) นายทหารแห่งเมืองเชียงใหม่ผู้ที่ทำหน้าที่อารักขาเจ้าสร้อยสุมาลีและนางหล้า นางลูนพี่เลี้ยงโดยทั้งหมดกำลังหลบหนีจากขบวนที่จะไปอยุธยา วงศ์เมืองจึงชวนทั้ง 4 คนหนีออกจากสมุดข่อย มาพักที่บ้านของตน ซึ่งอยู่ห่างไกลจากผู้คน

วงศ์เมืองได้เล่าเรื่องนี้ให้กับวัจน์ ( สันติสุข พรหมศิริ ) น้องชายของเขาฟังแต่วัจน์ไม่เชื่อและคิดว่าพี่ชายของตนเสียสติ จึงวางแผนกับคณา เลขาคนสนิทพาวงศ์เมืองเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล เมื่อเรวิทย์ ( วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์ ) ลูกชายของวัจน์ มาเยี่ยมวงศ์เมืองและได้ฟังเรื่องราวของเจ้าสร้อยสุมาลีและพวกแต่เรวิทย์ไม่เชื่อ เกาลัด ( อมิตา ยัง ) เพื่อยสาวสนิทของเรวิทย์ และคณาจึงกลับไปที่บ้านของวงศ์เมืองเพื่อเก็บของใช้ส่วนตัวของวงศ์เมืองมาให้ใช้ที่โรงพยาบาลก็พบว่าเรื่องที่วงศ์เมืองเล่านั้น เป็นความจริง เกาลัดถูกเพชรกล้าจับตัวขังเอาไว้ในบ้าน แต่คณาหนีออกมาได้จึงแจ้งเรื่องทั้งหมดให้เรวิทย์ฟัง เรวิทย์จึงรีบไป บ้านไร่เพื่อช่วยเกาลัดแต่เมื่อเรวิทย์พบเจ้าสร้อยสุมาลีก็ตกหลุมรักทันที เรวิทย์และเกาลัดขอร้องให้เจ้าสร้อยสุมาลีและเพชรกล้า ตามพวกเขาเข้ากรุงเทพฯเพื่อยืนยันว่าวงศ์เมืองไม่ได้บ้า แต่เมื่อไปถึงก็ไม่มีใครเชื่อ เรวิทย์จึงพาทั้งหมดไปพักที่บ้านแม่ของตน และทำให้เรวิทย์ได้ใกล้ชิด กับเจ้าสร้อยสุมาลีมากขึ้น หลังจากนั้น เรวิทย์ เกาลัด และทุกคนจึงวางแผนพาวงศ์เมืองหนีออกจาก โรงพยาบาล และไปหลบซ่อนอยู่ที่หัวหิน เกาลัดพาเจ้าสร้อยสุมาลีลงเล่นน้ำทะเลแล้วถูกผีโหงพรายฉุดตัวลงไปในน้ำ แต่เพชรกล้าช่วยไว้ได้ทัน ต่อมาโหงพรายปลอมตัวเป็นเรวิทย์มาหลอกเกาลัดเพื่อจับตัวไว้แลกกับเจ้าสร้อยสุมาลี แต่เพชรกล้า ก็ช่วยเหลือไว้ได้อีกครั้ง ทุกคนกังวลกับการปรากฏตัวของโหงพราย เพราะแสดงว่าขุนแผนได้ออกติดตามหาเจ้าสร้อยสุมาลีเพื่อ จะนำตัวกลับไป เจ้าสร้อยสุมาลีจึงขอให้เพชรกล้าไปตามเถรขวาด ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของเขามาช่วยเหลืออีกแรง

ระหว่างนั้นเจ้าเมืองได้พบกับขุนแผน และพบว่าขุนแผนไม่สามารถทำอันตรายคนในภพปกติได้ เกาลัดจึงเสนอให้พา ทุกคนไปซ่อนไว้ที่อื่น และให้เพชรกล้ากับเ๔รขวาดรับมือกับขุนแผน โดยเกาลัดได้เปิดห้องที่โรงแรมแห่งหนึ่งแต่ถูกแม็คเพื่อน จอมอันธพาลของเรวิทย์ที่หลงใหลในตัวเจ้าสร้อยสุมาลีมากตามรังควาน และยังโทรไปบอกวัจน์ให้รีบตามมา เรวิทย์ เพชรกล้า และเถรขวาดตามมาช่วยและสาปให้วัจน์และแม็คมีอาการเหมือนสุนัขต้องกินแต่น้ำข้าวไป 3 วัน เรวิทย์จึงตามแม่ของตนให้มา ช่วยดูแลเกาลัดจึงพาทุกคนไปเที่ยวที่บ้านของตนเองซึ่งไม่มีใครอยู่ จากนั้นเพชรกล้าและเถรขวาดก็กลับไปที่บ้านไร่ ของวงศ์เมืองเพื่อเตรียมรับมือกับขุนแผน เถรขวาดเสกน้ำเสี่ยงทายจนรู้ว่าศึกครั้งนี้เพชรกล้าจะต้องตายจึงคิดจะให้เพชรกล้า ได้สมรักกับเกาลัดจึงเสกหุ่น ชาย-หญิง คู่ เอาไปไว้ใต้หมอนของเกาลัด แต่เกาลัดกลับยกห้องนอน ให้เจ้าสร้อยสุมาลี และ นางพี่เลี้ยงอยู่แทน คืนนั้นเมื่อเพชรกล้าปีนเข้าห้องจึงได้เสียกับเจ้าสร้อยสุมาลีแทน

ที่บ้านวัจน์ ขุนแผนปรากฏตัวอีกครั้งและได้ยื่นข้อเสนอกับวัจน์ว่าจะช่วยถอนคำสาปและจะไม่ทำอันตรายใคร หากวัจน์ ช่วยเหลือเขาให้ได้ตัวเจ้าสร้อยสุมาลีกลับไป วัจน์จึงตอบตกลง

เมื่อเจ้าสร้อยสุมาลีรู้ตัวว่าได้เสียท่าให้กับเพชรกล้าจึงคิดฆ่าตัวตายในที่สุด เจ้าสร้อยสุมาลีก็เปลี่ยนใจและรับสารภาพ กับเรวิทย์ว่าตนไม่ใช่หญิงพรหมจรรย์อีกต่อไปแล้วแต่เรวิทย์ว่าไม่เป็นปัญหาสำหรับการที่เขาจะรักเจ้าสร้อยสุมาลี เจ้าสร้อยสุมาลี ซาบซึ้งมากแล้วเถรขวาดก็ร่ายมนต์ทำให้ไม่มีใครเห็นคนทั้งสามเพื่อป้องกันอันตรายจากขุนแผนจากนั้นทั้งหมดจึงกลับไปพัก ที่บ้านของเรวิทย์

เรวิทย์กลับไปที่บ้านวัจน์และรู้ว่าพ่อของตนกำลังวางแผนบางอย่างกับขุนแผนจึงโวยวาย ขุนแผนจึงจับเรวิทย์ขังคุกมืด ที่สร้างด้วยเวทย์มนต์เถรขวาดและเพชรกล้าจึงตามมาช่วย เรวิทย์ให้ออกจากคุกมืดได้ แต่ต้องต่อสู้กับขุนแผนจนตัวตายในที่สุด ส่วนเถรขวาดหนีเข้าสมุดข่อยไป เมื่อเจ้าสร้อยสุมาลีรู้ว่าเพชรกล้าถูกขุนแผนฆ่าตายก็เสียใจ บอกกับทุกคนว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้น เพราะเธอคนเดียว เพราะฉะนั้นเธอขอเป็นคนแก้ไข และบอกว่าถ้ากลับไปกับขุนแผนคงถูกพระพันวษาลงทัณฑ์แน่นอนื ขอสู้ตายด้วยมือตัวเองดีกว่า จึงเอาไฟจากปลายเทียนจ่อเข้ากับสมุดข่อยฉบับนั้น ตัวของเจ้าสร้อยสุมาลีและนางพี่เลี้ยงจึง เลือนหายไป ต่อหน้าต่อตาของทุกคน

เมื่อผู้คนในวรรณคดีได้จากไปแล้ว ทุกอย่างก็เริ่มกลับคืนเข้าสู่สภาวะปกติเรวิทย์และเกาลัดเริ่มรู้ใจของตัวเองว่าต่างมีใจ ให้กันอย่างไม่รู้ตัว ทั้งสองเริ่มต้นสร้างความสัมพันธ์กันใหม่และในเวลาเดียวกันนั้น วงศ์เมืองก็ได้เริ่มต้นการผจญภัยครั้งใหม่ห ลังจากที่ไปได้สมุดไทยโบราณเรื่องนิราศอยุธยาของสุนทรภู่มาโดยบังเอิญอีกเล่มหนึ่ง และสมุดข่อยเล่มนี้ก็เป็นประตูผ่านมิติ เวลาไปสู่ความมหัสจรรย์ได้เหมือนอย่างสมุดข่อยเล่มที่เจ้าสร้อยสุมาลีเผาไปแล้วนั่นเอง